
ซีเอ็นเอ็น เทย์เลอร์ ฟริตซ์ ชาวอเมริกันพ่ายแพ้อย่างไม่คาดคิดในรอบแรกให้กับดาเนียล อัลท์ไมเออร์ จากเยอรมนี ในการแข่งขันเฟรนช์โอเพ่นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
อัลท์ไมเออร์เอาชนะฟริตซ์มือวางอันดับ 4 ไปด้วยคะแนน 7-5, 3-6, 6-3, 6-1 ซึ่งกลายเป็นผู้พ่ายแพ้รายสำคัญคนแรกในประเภทชายเดี่ยวที่โรล็องด์การ์รอส
ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ถือเป็นการตกรอบเฟร้นช์โอเพ่นครั้งแรกของฟริตซ์ตั้งแต่ปี 2018 และเป็นครั้งแรกของเขาในการตกรอบแกรนด์สแลมนับตั้งแต่ยูเอสโอเพ่นปี 2022
“มันพิเศษมาก” อัลท์ไมเออร์กล่าวหลังจากบันทึกชัยชนะครั้งที่ 5 เหนือคู่แข่งที่อยู่ในอันดับ 10 อันดับแรกตามรายงานของ ATP Tour “ผมคิดว่าผมทำงานหนักมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อสร้างความมั่นใจ และเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันแบบนั้น”
“ผมรู้สึกว่าผมพร้อมที่จะเล่นกับใครก็ตามที่จะเผชิญหน้ากับผม ผมมีความสุขมากที่ได้ชัยชนะครั้งแรกนี้ และผมรักฟอร์มการเล่นของตัวเองจริงๆ”
นักเทนนิสมือวางอันดับ 66 ของโลกจะพบกับ วิท โคปริวา จากสาธารณรัฐเช็ก ในรอบที่ 2 ในวันพุธ

เขาทำแต้มเบรกพอยต์ได้สำเร็จเพียงครั้งเดียวจากทั้งหมด 5 แต้มในแมตช์วันจันทร์ และทำวินเนอร์ได้ 34 ครั้ง โดย 14 ครั้งเป็นเอซ เทียบกับ 46 ครั้งของอัลท์ไมเออร์
ฟริตซ์ วัย 27 ปี ไม่ใช่นักหวดชาวอเมริกันระดับสูงเพียงคนเดียวที่พ่ายแพ้ในรอบแรกของการแข่งขันโรล็องด์-การ์รอส ในการแข่งขันประเภทหญิงเดี่ยว เอ็มมา นาบาร์โร มือวางอันดับ 9 พ่ายแพ้ต่อเจสสิกา บูซาส มาเนโร จากสเปน 6-0, 6-1 ในเวลาเพียง 57 นาที
ตามรายงานของESPNนาวาร์โรเป็นผู้หญิงคนที่ 3 ที่เป็นมือวางใน 10 อันดับแรกที่ชนะได้เพียงเกมเดียวในรอบแรกของแกรนด์สแลม ต่อจากโมนิกา เซเลสในออสเตรเลียนโอเพ่นปี 2001 และอันนา ชัคเวตาดเซในออสเตรเลียนโอเพ่นปี 2008
ในการแข่งขันประเภทหญิงเดี่ยว รอบแบ่งกลุ่มนั้น เปาลา บาโดซา ซึ่งเป็นมือวางอันดับ 10 ของสเปน เอาชนะ นาโอมิ โอซากะ แชมป์แกรนด์สแลม 4 สมัยไปได้ 2-0 ด้วยคะแนน 6-7(1), 6-1, 6-4 โดยเธอติดโบว์สีชมพูที่ผมและสวมชุดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดอกซากุระในบ้านเกิดของเธอที่ประเทศญี่ปุ่น

นั่นหมายความว่าโอซากะซึ่งปัจจุบันอยู่อันดับ 49 ของโลก ไม่สามารถผ่านรอบ 2 ของเฟร้นช์โอเพ่นได้เลยนับตั้งแต่ปี 2019